วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

โปรแกรมที่ใช้สำหรับเปิดอินเตอร์เน็ต มีชื่อเรียกว่าอะไร และจงยกตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้เปิดอินเตอร์เน็ต มา 6 โปรแกรม


Web browser (เว็บบราวเซอร์)
           Web browser (เว็บบราวเซอร์) คือ โปรแกรมค้นดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล ที่จัดเก็บไว้ที่เว็บเซอร์วิซหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโ้ปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เวิลด์ไวด์เว็บ World Wide Web (WWW)

โปรแกรมที่ใช้เปิดอินเตอร์เน็ต


1.Mozilla Firefox

สำหรับชื่อ Mozilla Firefox นี้หลายๆคนคงจะเคยคุ้นกันเป็นอย่างดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่านักท่องเว็บที่เน้นความเร็วเป็นหลัก โดยเจ้าหมาป่าไฟจากค่าย Mozilla ถือได้ว่าเป็นเบราเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้เพราะเป็นโปรแกรมที่สามารถปฏิบัติการได้ทั้งบนระบบ Microsoft Windows, Linux และ Mac OS X

มาว่ากันถึงข้อดี-ข้อเสียของ Mozilla Firefox กันบ้างดีกว่า

ข้อดี :
1. Mozilla Firefox เป็นเบราเซอร์ที่มีความเร็วพอสมควร แถมกินแรมน้อยมากทำให้ไม่หนักเครื่องเราด้วย

2. Mozilla Firefox เป็นเบราเซอร์ที่มีปลั๊กอินเสริม Add-ons มากมายให้หามาใช้งานกัน โดยในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ก็มีสกินใหม่ๆให้เราปรับเปลี่ยนแก้เบื่อได้ตามใจเราถึงกว่า 30,000 แบบทีเดียว

3. Mozilla Firefox สามารถรองรับความสามารถ HTML5 ได้ดีกว่าเวอร์ชั่นรุ่นก่อนๆ เยอะเลย


ข้อเสีย : บางครั้ง Mozilla Firefox ไม่สามารถเปิดเว็บที่มีระบบป้องกันความปลอดภัยสูงๆได้ นอกจากนี้ยังมีระบบตัดคำภาษาไทยที่ไม่ค่อยจะเวิร์กเสียเท่าไหร่ ทำให้บางทีอ่านคำหรือประโยคแล้วความหมายอาจจะเพี้ยนไปบ้าง

2.Google Chrome

Google Chrome จากบริษัทเซิร์ชเอนจิ้นยักษ์ใหญ่อย่าง Google ยังคงรักษาคอนเซปต์ความเรียบง่ายตามสไตล์ของพวกเขาไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยหน้าเว็บเบราเซอร์ของ Chrome สะท้อนความเรียบง่ายในฝั่งอินเตอร์เฟซที่สามารถผนวกเข้ากับเทคโนโลยีการค้นหาข้อมูลอันซับซ้อนในฉากหลังได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสบการณ์การโหลดหน้าเว็บที่เร็วขึ้น ปลอดภัยกว่าเดิม และใช้งานได้ง่ายแม้กระทั่งมือใหม่หัดเล่นอินเตอร์เน็ตก็ตาม

แน่นอนว่า Google Chrome เองก็มีทั้งข้อดีละข้อเสียไม่ต่างจากเบราเซอร์ของค่ายอื่นๆเช่นกัน

ข้อดี :
1. Google Chrome สามารถโหลดหน้าเว็บได้รวดเร็วกว่าเบราเซอร์อื่นอีกหลายๆ ตัว

2. Google Chrome มีพื้นที่หน้าเว็บขนาดใหญ่และไม่รกรุงรัง ไม่มีแถบเครื่องมือชวนให้ลายตาเหมือน เบราเซอร์ของค่ายอื่น

3. Google Chrome สามารถค้นหาคำที่ต้องการจากช่อง URL ได้ทันทีผ่านระบบค้นหาอันเป็นเอกลักษณ์ของ Google นั่นเอง เพียงแค่เราพิมพ์ข้อความที่เราต้องการค้นหาลงไปที่ช่อง URL ก็สามารถค้นหาข้อมูลได้แล้วขณะที่เบราเซอร์ตัวอื่นๆ ไม่สามารถทำได้เช่นนี้

4. Google Chrome สามารถดึงแท็บต่างๆของหน้าเว็บที่เราเปิดอยู่เข้ามารวมเป็นอันเดียวกันหรือจะแยกออกมาก็สามารถทำได้เพียงปลายนิ้วคลิกเท่านั้น

5. เมื่อเราดาวน์โหลดไฟล์หรือข้อมูลใดๆก็ตามผ่าน Google Chrome หน้าต่างดาวน์โหลดจะไม่เด้งออกมาจากหน้าเว็บเหมือนเบราเซอร์ตัวอื่นๆ เพราะใน Google Chrome หน้าต่างการดาวน์โหลดจะถูกโยกย้ายไปวางไว้ในแถบด้านล่างของหน้าเว็บซึ่งจะช่วยให้เพื่อนๆเห็นว่าไฟล์ถูกดาวน์โหลดไปได้มากน้อยเท่าไหร่แล้วนั่นเอง


ข้อเสีย : 
1. การแก้ไขข้อความต่างๆ ใน Google Chrome ทำได้ลำบากพอสมควร เพราะไม่ว่าเราจะใช้เมาส์คลิกที่ส่วนไหนของข้อความ Cursor จะชอบเด้งไปอยู่ข้างหน้าข้อความตลอดเลย


2. ส่วนการลากทับข้อความ บางครั้งจะคลุมได้ไม่หมดทั้งๆ ที่เรามั่นใจว่าลากคลุมไปหมดแล้วทั้งข้อความ (ไม่รู้ว่าจะเหลือไว้ทำไม!!!) บางทีเลยต้องหันไปหาศาสตร์มืดอย่างพวกคีย์ชอร์ทคัตต่างๆก็จะช่วยไปได้มากเลย


3.Internet Explorer 

Internet Explorer 8 หนึ่งเดียวที่เหลือรอดมาจากยุค Netscape Navigator เฟื่องฟูเป็นเบราเซอร์ที่อยู่คู่บ้านคู่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows มาช้านาน ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ IE8 ที่ได้รับการพัฒนาโดยตรงจาก Microsoft ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นโปรแกรมท่องเว็บที่ยังได้รับความนิยมอยู่อย่างเหนียวแน่นจากแฟนๆเสมอมา โดยล่าสุด Microsoft ได้พัฒนาเวอร์ชั่นใหม่นั่นก็คือ Internet Explorer 9 ซึ่งสามารถตอบรับกับความสามารถของระบบ Windows 7 OS นั่นเอง

IE8 แม้จะอยู่มานานกว่าใคร แต่ก็ใช่ว่าเขาจะทำผิดไม่เป็นเหมือนคนอื่น จริงไหม

ข้อดี :
1. Internet Explorer 8 ถือได้ว่าเป็นเบราเซอร์ที่มีคนใช้เยอะพอสมควร เพราะเป็นเบราเซอร์ที่มีความเสถียรในลำดับต้นๆ

2. Internet Explorer 8 ทำให้เราท่องเว็บอย่างปลอดภัยไร้กังวลเพราะมีระบบจัดการความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด

3. ส่วนมากผู้สร้างเว็บไซต์โดยทั่วไปจะใช้งาน IE เป็นเบราเซอร์หลักในการตรวจสอบฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆบนหน้าเว็บไซต์ ทำให้เว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่เปิดผ่าน IE มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามครบถ้วนไม่พบความพิกลพิการแต่อย่างใด


ข้อเสีย : Internet Explorer 8 เป็นเบราเซอร์ที่โหลดหน้าเว็บได้ช้าที่สุดก็ว่าได้ นอกจากนี้ถ้าเราเปิดใช้งานหลายๆแท็บ รับรองได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องสูญเสียแรมไปเป็นจำนวนมากจนทำให้เพื่อนๆต้องประสบปัญหาหน้าเว็บค้างเติ่งเป็นจอขาว หรือไม่ก็เครื่องทำงานได้อืดสุดๆอย่างแน่นอน


4.Opera

Opera เป็นเบราเซอร์ที่ได้ชื่อว่าเร็วที่สุดในบรรดา 5 จตุรเทพทั้งหมดนี้ โดยจุดเด่นของ Opera10 จะอยู่ที่ระบบ Opera Turbo หรือเทคโนโลยีในการบีบอัดข้อมูลสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำ (WOW!!!) ทำให้เบราเซอร์ตัวนี้นอกเหนือจากจะเป็นที่ชื่นชอบของทางฝั่งผู้ใช้งาน PC แล้ว มือถือก็เป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่เหมาะสมกับความสามารถที่ไม่ธรรมดาของ Opera ตามไปด้วย

ข้อดี :
1. จากที่ได้ทดสอบมา Opera เป็นเบราเซอร์ที่มีการโหลดหน้าเว็บเร็วที่สุดในบรรดาเบราเซอร์ทั้งหมด

2. Opera สามารถย่อหรือขยายแท็บบนหน้าเว็บได้ นอกจากนี้ในเวอร์ชั่น Opera 10.63 เราจะสามารถกำหนดให้แท็บอยู่ฝั่งซ้าย ขวา บน หรือล่างได้ดั่งใจเลย

3. การดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ บนหน้าเว็บ เช่น การโหลดเพลง จะมีหน้าต่างดาวน์โหลดโชว์ขึ้นที่แท็บข้างบน และใช้เวลาไม่นานในการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆอีกด้วย

4.Opera สามารถรองรับระบบ HTML, JavaScript และ CSS ได้ดีพอสมควร

5.Opera จะมีฟังก์ชั่น Opera Turbo ในตัวเพื่อให้เราสามารถเล่นเน็ตได้เร็วขึ้นแม้เน็ตบ้านหรือที่ทำงานจะเน่าเพียงใด โดยเราสามารถเรียกใช้ได้จากมุมล่างซ้ายมือของหน้าเว็บ
6.Opera สามารถให้อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้อัตโนมัติ แถมกินแรมน้อยทำให้ไม่หนักเครื่องเราด้วย


ข้อเสีย : Opera บางครั้งก็เจอปัญหาโหลดแท็บช้าเหมือนกัน นอกจากนี้ภาษาไทยก็ยังมีเหวงๆบ้างโดยเฉพาะคำไทยที่มีวรรณยุกต์ทั้งหลายจะชอบ ลอย อ่านแล้วชวนปวดเศียรเวียนเฮดมากมาย


5.Safari 
Safari เดิมทีตั้งต้นเป็นเบราเซอร์สุดเอ็กซคลูซีฟที่ Apple พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับเครื่อง Mac โดยเฉพาะ แต่ว่าในปัจจุบัน Safari ได้รับการยกระดับให้สามารถใช้งานได้กับเครื่อง Windows ทั่วไปๆ แล้ว จึงทำให้ Safari เริ่มเป็นชื่อที่คุ้นหูใครหลายคนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ Safari ยังเป็นเบราเซอร์ที่มีความสวยงามและเก๋ไก๋สไลเดอร์สมกับเป็นผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้อีก

ข้อดี :
1. Safari เป็นเบราเซอร์ที่มีหน้าตาสวยงามที่มาพร้อมกับลูกเล่นดีๆ เจ๋งๆ อีกเพียบ ทำให้เราสามารถปรับแต่งหน้าเบราเซอร์หลักได้ง่ายและถูกใจผู้ใช้มากยิ่งขึ้น

2. การใช้งาน Safari ทำได้เร็วดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการโหลดหน้าเว็บหรือเปิดแท็บใหม่

3. การท่องเว็บเป็นส่วนตัวมากขึ้นโดยผู้ใช้จะไม่ทิ้งร่องรอยการเข้าเว็บเลย หากเปิดรูปแบบการใช้งานเบราเซอร์แบบส่วนตัวนั่นเอง

4. Safari เป็นเบราเซอร์ตัวแรกที่สามารถรองรับการใช้งานระบบ HTML5 และ CSS 3 ได้ในตัว


ข้อเสีย : Safari 5 มีลูกเล่นเยอะอยู่ก็จริงหรอก แต่ว่าสุดท้ายก็อีหรอบเดิมคือมีแต่สาวก Mac เท่านั้นที่ได้ใช้งานเครื่องมือต่างๆอย่างเต็มที่ ส่วนลูกเมียน้อยอย่าง Windows ก็ร้องเพลงรอกันต่อไป นอกจากนี้เครื่อง Windows ที่ใช้งาน Safari ในบางครั้งก็อาจพบปัญหาการโหลดเปิดหน้าเว็บช้าเป็นบางอารมณ์ด้วย


6.Baidu Spark
Baidu Spark ถ้าถามว่าดีหรือไม่ และเป็นอันตรายหรือเปล่านั้นขอบอกได้เลยว่ามีแบ่งเป็น 2 ความเห็น ในบางกระแสกล่าวว่า Baidu Spark ใช้งานได้ง่าย มีลักษณะคล้าย Google Chrome ผสมกับ Firefox รวมไปถึงยังมีฟีเจอร์ที่คอยอำนวยความสะดวกมากมาย แต่กระนั้นแล้วรูปแบบการมาของโปรแกรม Baidu Spark อาจจะทำให้หลายคนไม่พอใจเช่น แอบแฝงมากับโปรแกรมโดยที่เราไม่รู้ตัว และในบางครั้งถ้าติดตั้งโปรแกรมแล้วอ่านไม่ถี่ถ้วนเจ้าโปรแกรมนี้ก็มาติดตั้งบนเครื่องและตั้งค่าเป็นเบราเซอร์ปริยายให้โดยอัตโนมัติโดยไม่รู้ตัว หรือที่แย่กว่านั้นคือหลายๆ คนต่างบอกว่า?Baidu Spark ส่งผลโดยตรงต่อโปรแกรมเบราเซอร์อื่นๆ หรือส่งผลต่อเครื่องให้ช้าลงเป็นต้น

ข้อดี :
1.Baidu Spark ทำงานได้ไวมาก ช่วงแรกๆๆ

2.ใช้งานได้ง่าย มีลักษณะคล้าย Google Chrome ผสมกับ Firefox

3.มีฟีเจอร์ที่คอยอำนวยความสะดวกมากมาย


ข้อเสีย :
1.แอบแฝงมากับโปรแกรมโดยที่เราไม่รู้ตัว และในบางครั้งถ้าติดตั้งโปรแกรมแล้วอ่านไม่ถี่ถ้วนเจ้าโปรแกรมนี้ก็มาติดตั้งบนเครื่องและตั้งค่าเป็นเบราเซอร์ปริยายให้โดยอัตโนมัติโดยไม่รู้ตัว

2.ที่แย่กว่านั้นคือหลายๆ คนต่างบอกว่า Baidu Spark ส่งผลโดยตรงต่อโปรแกรมเบราเซอร์อื่นๆ หรือส่งผลต่อเครื่องให้ช้าลง

ที่มา (http://www.techxcite.com/topic/4370.html)
(http://notebookspec.com/topics/baidu/)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น